เที่ยวฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี เมืองแห่งศิลปะที่คลาสสิคที่สุด

เที่ยวฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี เป็นเมืองทางตอนกลางของอิตาลี เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นทัสคานี มีแม่น้ำสายสำคัญคือแม่น้ำอาร์โนซึ่งไหลผ่านใจกลางเมือง ฟลอเรนซ์เป็นศูนย์กลางการค้าและการเงินในยุคกลาง และถือว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในยุคนั้น นักวิชาการหลายคนถือว่าฟลอเรนซ์เป็นแหล่งกำเนิดของศิลปะยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา จนถูกเรียกว่าฟลอเรนซ์ “เอเธนส์ยุคกลาง” ประวัติศาสตร์ของฟลอเรนซ์มีความซับซ้อนมาก นับตั้งแต่สมัยที่ปกครองโดยตระกูลเมดิซีและนักบวช จนกระทั่งเกิดการปฏิวัติและการสถาปนาสาธารณรัฐ เป็นเวลาหลายปีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2408 ถึง พ.ศ. 2414 ฟลอเรนซ์เป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรอิตาลี (ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2404)

ฟลอเรนซ์ดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายล้านคนทุกปี และในปี 1982 ใจกลางเมืองเก่าของฟลอเรนซ์ก็ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลก UNESCO (UNESCO) ฟลอเรนซ์เป็นที่ตั้งของวัฒนธรรม อนุสาวรีย์ และสถาปัตยกรรมเรอเนซองส์ และผลงานศิลปะที่มีชื่อเสียง เมืองนี้เป็นที่ตั้งของหอศิลป์และพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง เช่น Uffizi Gallery และ Palazzo Pitti และนอกจากจะเป็นแหล่งกำเนิดของงานศิลปะแล้ว

ฟลอเรนซ์ยังเป็นเมืองที่ฝังศพบุคคลสำคัญของโลก เช่น Michelangelo อีกด้วย ศิลปินชื่อดังของเมืองกาลิเลโอนักวิทยาศาสตร์ชื่อดัง และมาเคียเวลลี นักการเมืองคนสำคัญของอิตาลี ฟลอเรนซ์ยังเป็นเมืองสำคัญของอุตสาหกรรมแฟชั่นของอิตาลีอีกด้วย ฟลอเรนซ์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นอันดับที่ 15 ของโลก และนิตยสาร Forbes เคยจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดในโลก

 

เที่ยวฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี มหาวิหารแห่งฟลอเรนซ์

 

เที่ยวฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี อาสนวิหารฟลอเรนซ์ (Duomo di Firenze / Basilica di Santa Maria del Fiore) อาคารหินอ่อนสีขาว รูปทรงของโบสถ์ตกแต่งด้วยหินแกะสลักสีเขียวและสีช ทำให้ดูเหมือนภาพวาด ในช่วงรุ่งเรืองของฟลอเรนซ์ในศตวรรษที่ 13 เมืองนี้ต้องการสร้างอาสนวิหารขนาดใหญ่เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ใช้เวลาก่อสร้างถึง 140 ปี ผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมนีโอโกธิคนี้ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสก เหนือซุ้มประตู ส่วนสำคัญอีกแห่งหนึ่งของอาสนวิหารคืออาสนวิหารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมื่อกว่า 800 ปีที่แล้ว และเป็นหนึ่งในอาสนวิหารที่สวยที่สุดในอิตาลี

นอกจากนี้ยังเป็นมหาวิหารที่ใหญ่เป็นอันดับสองในอิตาลีรองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในนครวาติกัน นอกจากนี้ยังเป็นมหาวิหารที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ในยุโรป ถัดมาเป็นหอระฆังที่มีความสูงถึง 85 เมตร ภายในอาสนวิหารมีหน้าต่างกระจกหลากสีสันที่ออกแบบโดยศิลปินยุคเรอเนซองส์ชื่อดัง นี่คือจุดเด่นของงานศิลปะที่วาดไว้บนผนังอาสนวิหารแห่งนี้ อีกหนึ่งส่วนสำคัญของอาสนวิหาร

โดมมีผนังโดม 2 ผนังบนฐานแปดเหลี่ยม และบรูเนลเลสกีได้ออกแบบวิธีการก่อสร้างที่ไม่ต้องใช้นั่งร้านจากภายในโบสถ์ ซึ่งหมายความว่าพื้นที่ใต้โดมของโบสถ์ยังคงถูกใช้ในระหว่างการก่อสร้างโดม โครงสร้างของโดมมีความซับซ้อนมาก บรูเนลเลสกีแก้ไขปัญหากำแพงแปดเหลี่ยมที่สร้างฐานของโดม (แปดเหลี่ยมที่มีผนังแต่ละด้านยาวไม่เท่ากัน) โดยเพิ่มผนังด้านในที่แต่ละด้านเท่ากัน

จากนั้นจึงสร้างกำแพงโดม 2 ชั้นจากกำแพงทั้งสองนี้ ความสูงของโดมแต่ละอันถูกยึดไว้ด้วยโซ่เหล็กและโครงไม้ที่มีรูปร่างคล้ายรางรถไฟ ทั้งเหล็กและไม้ทำหน้าที่เหมือนฮูลาฮูป ป้องกันไม่ให้โดมแตกออกจากกันเนื่องจากแรงโน้มถ่วงของโลก อีกทั้งการจัดเรียงอิฐมักจะมีความชำนาญมากกว่าและต้องไขว้กันเป็นลายก้างปลาเพื่อเสริมการยึดเกาะของอิฐในแต่ละชั้น

 

เปียสซ่า เดลลา ซินโยเลีย

 

เปียสซ่า เดลลา ซินโยเลีย (Piazza della Signoria) จัตุรัสรูปตัว L ที่อยู่ด้านหน้า ปาลาสโซ เวชชิโอ (Palazzo Vecchio) เป็นจุดท่องเที่ยวที่มีความเกี่ยวข้องกับศูนย์กลางศูนย์กลางทางการเมือง ทางการเมืองของเมืองฟลอเรนซ์ ไม่พลาดไปชมอาคารปาลาสโซ เวชชิโอ หรือ อาคารศาลากลางแห่งเมืองฟลอเรนซ์ นอกจากนี้ยังถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเกี่ยวกับงานศิลปะ จิตรกรรมฝาผนัง รูปปั้น และอื่นๆอีกเป็นจำนวนมาก และเดิมเป็นที่ตั้ง รูปแกะสลักเดวิด ของแท้ผลงานของไมเคิลแองเจโลอันลือชื่อ(ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าประตูเป็นรูปปั้นจำลอง) แต่ในปัจจุบันถูกเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะอะคาเดมี อีกด้านหนึ่งของจัตุรัสเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์อุฟฟิชี ที่นี่คือสถานที่เก็บงานฝีมือศิลปินเอกอิตาเลียนในสกุลช่างฟลอเรนซ์ที่ใหญ่และดีที่สุดในโลก และบิรเวณด้านหน้าปาลาสโซ เวชชิโอยังเป็นที่ตั้งของน้ำพุรูปเนปจูน (Fountain of Neptune) ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี 1563-1565 โดย แบร์โตโลมิโอ แอมแมนนาติ

 

สะพาน ปอนเต เวชชิโอ

 

เที่ยวฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี สะพาน ปอนเต เวชชิโอ (Ponte Vecchio) สะพานเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการสัญจรข้ามแม่น้ำอาร์โน ปอนเตเวคคิโอเป็นสะพานที่เก่าแก่ที่สุดของฟลอเรนซ์ บันทึกของสะพานในสถานที่แห่งนี้ย้อนกลับไปในปี 996 ถึงแม้ว่าสะพานที่คุณเห็นอยู่นี้จะถูกสร้างขึ้นในปี 1345 ก็ตาม สะพานนี้มีโค้งสามอันคร่อมแม่น้ำ ร้านรวงสีเหลืองสดใสและหน้าต่างสี่เหลี่ยมจัตุรัสเล็กๆ ที่สะท้อนบนผิวน้ำเป็นหนึ่งในภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของฟลอเรนซ์ มีเพียงสะพานเท่านั้นที่ไม่ได้ถูกเยอรมันระเบิดไปในสงครามโลกครั้งที่สอง เนื่องจากถอยทัพออกไปเสียก่อน โดยบนสะพานนั้นเป็นที่ตั้งของอาคารร้านค้า ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายงานศิลปะ อัญมณี และของที่ระลึกจำนวนมาก โดยเชื่อกัยว่าสะพานที่ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยโรมัน ปัจจุบันกลายเป้นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชือ่เสียงมากแห่งหนึ่งของ เมืองฟลอเรนซ์

 

บทความแนะนำ